top of page

H O W   T O   P L A Y

  1. ตัวละครที่สามารถ Duel ได้จะต้องเป็นตัวละครในสถานะ Active ทั้งสองฝ่าย
     

  2. การ Duel หรือ การต่อสู้ตัวต่อตัว เป็นการดวลที่สมศักดิ์ศรีของเหล่าผู้วิเศษ อาจเป็นการต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความเชื่อของตนเอง หรือการต่อสู้เพื่อแย่งชิงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง (ในที่นี้เรียกว่า เดิมพัน หรือ ของกลาง) สามารถมีตัวสำรองในการต่อสู้ได้ไม่เกิน 1 คน
     

  3. หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีตัวสำรองในการต่อสู้ ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายจะต้องมีตัวสำรองทั้งคู่ และตัวสำรองทั้งสองฝ่ายจะต้องอยู่ในสถานะ Active ด้วยเช่นกัน
     

  4. ตัวละครที่เป็นผู้ท้าสู้หลักจะสามารถขอเปลี่ยนตัวเมื่อใดก็ได้ หรือจะเปลี่ยนตัวโดยอัติโนมัติเมื่อผู้ท้าสู้หลักหมดสติ หมดสภาพที่จะต่อสู้ได้ หรือ เสียชีวิต
     

  5. ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายต้องตกลงกันทำการต่อสู้ การร้องขอต่อสู้เพียงฝ่ายเดียวจะไม่เป็นผล โปรดเน้นย้ำให้เข้าใจว่าตัวละครอาจมีเหตุให้ต่อสู้กัน แต่ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายจะต้องไม่มีอารมณ์ส่วนตัวเข้าไปข้องเกี่ยว
     

  6. เมื่อผู้เล่นตกลงให้ตัวละครทำการต่อสู้แล้วให้ทั้งสองฝ่ายแจ้งยอมรับคำท้าดวลกับสตาฟ ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายจะต้องตกลงกันว่าจะเป็นการต่อสู้ต่อหน้าสาธารณชน (ใน Twitter Timeline) หรือการต่อสู้อย่างลับๆ
     

    1. ​การต่อสู้ต่อหน้าสาธารณชนจะถือว่า ตัวละครของผู้เล่นทั้งสองฝ่ายมีการท้าประลองกันต่อหน้าสาธารณชน และมีการต่อสู้กันบนเวทีประลอง มีผู้ชม(ตัวละครอื่นๆและ NPC )ร่วมรู้เห็นเหตุการณ์ ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะตกลงผลการประลองกันเอง หรือให้สตาฟเป็นผู้ตัดสิน
       

    2. การต่อสู้อย่างลับๆ จะถือว่าตัวละครของผู้เล่นต่อสู้กันในช่องทาง DM กลุ่ม 2-4 คน ประกอบด้วยตัวละคร 2 ฝ่ายซึ่งเป็นตัวละครหลักที่รับการท้าดวล และตัวละครสำรองฝ่ายละ 1 (หากมี) และมีสตาฟอย่างน้อย 1 คน เข้าร่วมชมและสังเกตการณ์การประลองและให้รายละเอียดข้อมูลต่างๆที่จำเป็น ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะตกลงผลการประลองกันเอง หรือให้สตาฟเป็นผู้ตัดสิน
       

    3. ตัวละครที่ไม่มาตามคำท้าดวล (โดยที่ตกลงใจรับคำท้าดวลแล้ว) จะถูกปรับแพ้และสูญเสียทรัพย์สินที่ใช้เป็นของเดิมพันในทันที รวมถึงจะถูกลงโทษตามดุลยพินิจของสตาฟ หากไม่มั่นใจจึงไม่ควรรับคำท้าประลอง
       

  7. กรณีที่ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายตกลงให้สตาฟเป็นผู้ตัดสินผลการประลอง สตาฟและผู้เล่นทั้งสองฝ่าย(รวมถึงตัวสำรอง หากมี) จะต้องตกลงวันเวลาที่สตาฟสามารถควบคุมดูแลการประลองได้ โดยจะต้องแจ้งสตาฟล่วงหน้าอย่างน้อยที่สุด 1 วัน ก่อนการประลอง(กรณีให้สตาฟตัดสินเท่านั้น) โดยไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ต่อหน้าสาธารณชนหรือการต่อสู้ตัวต่อตัว ผู้เล่นจะต้องปฏิบัติตามกฎการโรลเพลย์การต่อสู้ ซึ่งมีเนื้อหาดังต่อไปนี้
     

    1. ​ตัวละครของแต่ละฝ่ายที่ทำการต่อสู้ (ทั้งตัวหลักและตัวสำรอง) จะสามารถใช้คาถาได้เพียงครั้งละ 1 คาถาต่อ 1 เทิร์น และต้องรอให้อีกฝ่ายตอบเมนชั่นกลับมาก่อนจึงจะใช้คาถาต่อไปได้ ในที่นี้คาถารวมถึงการใช้อุปกรณ์เวทมนตร์หรือไอเท่มอื่นๆในการต่อสู้หรือป้องกัน โดยจะเรียกการตอบโต้(การเมนชั่น)จากอีกฝ่ายว่าเป็น 1 เทิร์น เพื่อความสะดวกในการเล่น
       

    2. สตาฟจะเป็นผู้ระบุว่าตัวละครใดจะได้โจมตีก่อน จากค่าสถานะของตัวละคร ตัวละครที่มีความว่องไวมากกว่าจะได้โจมตีก่อน
       

    3. สตาฟจะคิดคำนวนค่าสถานะปัจจุบันของผู้เล่นทั้งสองฝ่ายที่กำลังทำการต่อสู้ (ไม่รวมตัวสำรอง) และส่งค่าสถานะปัจจุบันและผลกระทบที่ตัวละครได้รับจากการโจมตีจากอีกฝ่ายให้ผู้เล่นเจ้าของตัวละครเพียงคนเดียวทราบทาง DM ส่วนตัวระหว่างสตาฟกับผู้เล่น (ไม่ใช่ห้องรวมที่กำลังทำการต่อสู้ กรณีต่อสู้ส่วนตัวไม่ต้องการให้มีผู้ชม) โดยจะแจ้งทั้งสองฝ่ายทุกครั้งหลังจบเทิร์นของผู้เล่นแต่ละฝ่าย ผู้เล่นจึงสามารถคาดคะเนได้ว่าคาถาของอีกฝ่ายมีแรงโจมตีเท่าใด โดยที่ผู้เล่นอีกฝ่ายจะไม่ทราบค่าสถานะของท่านเลย
       

    4. ตัวละครสามารถแสดงออกทางกายภาพด้วยการทวิต(หรือ DM กรณีต่อสู้อย่างลับๆ) เช่น เมื่อผู้เล่นมีค่า HP ลดลง อาจแสดงออกด้วยอาการเหงื่อออก หน้าซีด กระอักเลือด หรือมีบาดแผลที่จุดต่างๆ เป็นต้น 
       

    5. การประลองจะดำเนินไปเรื่อยๆจนกว่าผู้เล่นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะจบการประลอง หรือจะส่งต่อให้ตัวสำรองมาสู้แทนหรือไม่ (ตัวสำรองจะไม่ทราบค่าสถานะของผู้เล่น แม้จะเป็นฝ่ายเดียวกันก็ตาม ยกเว้นว่าผู้เล่นเลือกที่จะบอกตัวสำรองฝั่งตนเอง)
       

    6. กรณีผู้เล่นขอเปลี่ยนตัวสำรองสามารถทำได้ทันที โดยไม่ต้องขอคำอนุญาตจากฝ่ายตรงข้าม
       

    7. ตัวละครสำรองจะได้รับค่าสถานะแรกเริ่มและค่าสถานะที่เปลี่ยนไปทุกครั้งที่ถูกโจมตีด้วยเช่นกัน
       

    8. ฝ่ายที่เลือกจบการประลองก่อนเป็นผู้แพ้ โดยไม่คำนึงค่าสถานะที่เหลืออยู่ของทั้งสองฝ่าย
       

    9. หากตัวละครเลือกที่จะต่อสู้ไปเรื่อยๆโดยไม่มีผู้ออกปากขอจบการประลอง การประลองจะจบโดยการตัดสินจากสตาฟ นั่นคือ ผู้เล่นที่มี HP ต่ำกว่า 5% ก่อนจะไม่สามารถสู้ต่อได้ และจะถูกปรับแพ้ (อย่างสมเกียรติ) โดยอาการเมื่อค่า HP ต่ำกว่า 5% อาจบรรยายได้จากสภาพร่างกายหรือสภาพจิตใจจะเสียหายอย่างหนัก ผู้เล่นสามารถเลือกบทบรรยายสถานการณ์ได้เอง เช่น ถูกตัดอวัยวะ เลือดออกจากหู จมูก ปาก พร้อมๆกัน หรืออื่นๆตามความเหมาะสม ซึ่งควรให้สอดคล้องกับคาถาที่อีกฝ่ายโจมตีตัวละครของผู้เล่นมาก่อนหน้า
       

  8. ตัวละครที่เป็นฝ่ายชนะจะได้รับสิ่งตอบแทนตามข้อตกลงก่อนการประลองของผู้เล่น (ซึ่งผู้เล่นอาจเลือกเป็นข้อตกลงระหว่างตัวละครได้ด้วยเช่นกัน) หรืออาจจะเป็นคำขอโดยพฤตินัยหรืออื่นๆ ดังตัวอย่าง
     

    1. ตัวละคร A เรียกร้องให้ตัวละคร B ไม่เรียกผู้อื่นด้วยถ้อยคำดูหมิ่นเหยียดยามชาติกำเนิด เช่น เลือดสีโคลน 
       

    2. ตัวละคร B ต้องการให้ตัวละคร A ก้มหัวขอโทษตน เป็นต้น
       

    3. ตัวละคร A ชนะ ตัวละคร B ตัวละคร B จึงไม่มีสิทธิ์เรียกผู้อื่นด้วยถ้อยคำดูหมิ่นเหยียดหยามชาติกำเนิดอีก
       

    4. หากอีกฝ่ายไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง สตาฟและผู้เล่นอื่นๆจะคอยเตือนให้เขามั่นใจว่าเขาจะทำตามเกียรติของเหล่าผู้วิเศษอย่างแน่นอน
       

  9. ไม่ว่าผู้เล่นจะตกลงผลการต่อสู้กันเอง หรือ ให้สตาฟเป็นผู้ตัดสิน สินทรัพย์หรือของกลางที่ถูกใช้เป็นเดิมพันในการประลองจะอยู่ที่สตาฟตั้งแต่ก่อนเริ่มการประลอง เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น
     

    1. หากผู้เล่นต้องการให้เดิมพันที่ใช้เป็นของปลอม หรือของเลียนแบบที่ทำได้แนบเนียน ผู้เล่นต้องแจ้งสตาฟก่อนเสมอถึงรายละเอียดตำหนิระหว่างของจริงและของปลอม (อนึ่ง ผู้เล่นต้องผ่านเควสต์หรืออีเว้นต์ หรือมีอุปกรณ์ที่ทำให้ผู้เล่นสามารเลียนแบบสิ่งของได้อย่างแนบเนียนก่อน ดังรายละเอียดอื่นๆในการสร้างอุปกรณ์เวทมนตร์หรือคาถาที่คิดขึ้นเอง)
       

    2. สตาฟจะส่งต่อสินทรัพย์หรือของกลางที่ได้มาให้ผู้เล่นที่ชนะการประลองหลังจบการประลอง
       

Duel

bottom of page